วิธีชาร์จแบต สำหรับคนหมดพลัง
ไม่มีแรง ไม่มีพลัง แบตหมด ...เป็นคำที่เราได้ยินบ่อยมาก วันๆ หนึ่งคนเราต้องทำอะไรมากมาย แต่เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ บางทีไม่ต้องถึงบ่ายๆ เอาแค่สายๆ ก็ง่วงหมดแรงกันเสียแล้ว
ในวิถีชีวิตของคนปัจจุบันที่จะว่าเร่งรีบก็ไม่เชิง จะว่าช้าก็ไม่ใช่ คือเป็นวิถีประหลาดๆ เช่น เราเร่งรีบแทบตายที่จะไปถึงห้องเรียน ไปถึงที่ทำงาน แต่พอไปถึงแทนที่จะตั้งใจเรียนให้คุ้มค่าที่รีบเสียขนาดนั้น เราก็ออนไลน์ แอบเล่นเน็ตหรือทำงานแบบให้ครึ่งใจ เรารีบร้อนกลับมาบ้านในตอนเย็น สู้อุตส่าห์ฝ่ารถติดกลับมา แล้วก็นอนแช่หน้าจอโทรทัศน์เป็นชั่วโมงๆ โดยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ในที่สุดก็นอนดึกทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น ... พลังงานของเราถึงหายไป ตื่นเช้าก็ไม่อยากตื่น
การบอกให้จัดการเวลาให้ดี ไปถึงห้องเรียนหรือที่ทำงานก็ให้ตั้งใจเต็มร้อย กลับมาบ้านไม่เย็นมาก ทำอะไรที่เป็นประโยชน์และเข้านอนแต่หัวค่ำ ตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น ดูจะเป็นอะไรที่พูดง่ายทำยาก ดังนั้น วันนี้ หนูดีมีตัวเลือกเพิ่มเติมมาให้ลองเอาไปใช้กันดูเล่นๆ นะคะ
Energy Bar หรือแท่งถั่วอัดแข็ง ควรพกติดตัวไม่ต่ำกว่า 2 แท่ง หนูดีมีสารพัดยี่ห้อค่ะ ในเมืองไทย หนูดีเห็นมีหลายยี่ห้อ แต่มีเพียงไม่กี่ยี่ห้อที่ไม่หวาน มีน้ำตาลต่ำ
คนเราสามารถได้ไฟเบอร์จากถั่วต่างๆ มากกว่าผักใบเขียวอีกค่ะ ยิ่งทานสิ่งนี้กับข้าวกล้องเท่ากับว่าเราได้ Perfect Protein ทดแทนเนื้อสัตว์ อีกอย่างคือ 1 แท่งเท่ากับอาหาร 1 มื้อ เวลาหนูดีหิวจัดหรือมึนหัว ทานไปแท่งเดียวพลังงานพุ่ง หายเบลอเลย ได้ผลกว่ากาแฟมากมาย ใครไม่เคยพก ลองหามาพกนะคะ รับรองว่า คุณจะไม่ผิดหวัง
อีกสิ่งที่กระชากพลังงานขึ้นได้ดีมากคือ น้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง ที่จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของเราได้ บางครั้งเราคิดว่า หิว เหนื่อย ง่วง จริงๆ แล้วคือ เราขาดน้ำค่ะ เพียงการขาดน้ำไปแค่ 2% เท่านั้นจะทำให้รู้สึกแก่ขึ้น และทำตัวแก่ขึ้นไปด้วย ทางแก้ง่ายๆ คือ ดื่มน้ำไปเรื่อยๆ ตลอดวัน ยกเว้นระหว่างมื้ออาหาร สำหรับคนลดความอ้วนบางครั้งแค่หิวน้ำ แต่สมองแยกสัญญาณไม่ออกบอกว่าหิวอาหาร เราจึงไปหาอะไรทานก็เลยทำให้อ้วน วิธีเช็คง่ายๆ ถ้าหิวนอกมื้ออาหาร ให้ไปดื่มน้ำ 1 แก้วแล้วรอ 10 นาที ถ้ารู้สึกพึงพอใจแปลว่าแค่ร่างกายขาดน้ำ แต่ถ้ายังหิวอยู่แปลว่าหิวจริง
ที่สำคัญคือ ถ้าหมดพลังงานจริงๆ ให้ลุกขึ้นแล้วออกกำลัง ลองหาที่สงบๆ บิดตัวไปมา หรือท่าโปรดที่เรียกเลือดไปเลี้ยงสมองหนูดีคือ ยืนตรงแล้วพับตัวจากเอวลงมาโดยไม่งอเข่า ปล่อยให้หัวและแขนห้อยตามสบาย และเขย่าตัวไปมานิดหนึ่ง ท่านี้ครูโยคะเรียกว่าท่า Forever Young เพราะหน้าจะแดงจัดและตาโตเลยทีเดียว พอทำเสร็จหายง่วงกันไปข้างหนึ่งเลย ส่วนใครอยู่บ้านหาโอกาสไปวิ่งหรือเดินเล่นรอบหมู่บ้าน เป็นเรื่องขัดแย้งนะคะ คนหมดพลังแต่แนะนำให้ไปออกกำลัง แต่นี่คือความจริง พลังก็เหมือนสมอง ยิ่งใช้ยิ่งมีเยอะขึ้น ไม่เชื่อต้องลอง
สิ่งสำคัญไม่พูดไม่ได้ คือ เรื่องนอน ต่อให้เราทำอย่างอื่นครบแต่นอนขาด รับรองว่าพลังงานหายแน่ สำหรับผู้ใหญ่ต้องนอนให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 56-63 ชั่วโมง แต่ละคืนเรานอนไม่เท่ากันหรอกค่ะ เอาเป็นว่าระหว่าง 7-9 ชั่วโมงกำลังดี ถ้าคืนไหนขาดไปนิด ก็ไปใช้หนี้กับอีกคืนหนึ่ง ใครสนใจจะลองทดชั่วโมงไว้ข้างเตียงก็ได้นะคะ จะได้รู้กันไปเลยว่า วิถีชีวิตของเราตอนนี้นอนน้อยเกินไปหรือไม่
พลังงาน เป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับทุกคน ร่างกายมนุษย์มีแหล่งพลังงานตามธรรมชาติอยู่แล้ว ทั้งหมดที่เราต้องทำ คือ ช่วยให้เขาปล่อยพลังงานออกมาได้เรื่อยๆ อย่างสบายๆ และเป็นธรรมชาติ โดยเราไม่เอาวิถีชีวิตของเราไปขัดขวางเท่านั้นเอง
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดย วนิษา เรซ (หนูดี)
http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/35671
Relate topics
- แนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
- คู่มือการใช้งาน Hosoffice
- คู่มือการใช้งานโปรแกรม HRMS
- อาการผิดปกติทางจิต ไม่ได้หมายถึงโรคจิตเสมอไป
- มาตราฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ
- ดูแลสมองไว้ ห่างไกลโรค
- ‘สารพิษ’ ภัยร้ายต่อจิต
- คุณรู้จัก `ออร์แกนิก` ดีแค่ไหน?
- รู้ได้อย่างไรว่าลูกเสพยาเสพติด
- ต้นอ่อนทานตะวัน แหล่งสารอาหารสุขภาพ