สร้างสุขด้วยการสวดมนต์ ปัญญาดีจิตเมตตาสร้างความเชื่อมั่นสติแจ่มใส

by kadocom @8-12-54 08.44 ( IP : 203...36 ) | Tags : มุมวิชาการ
photo  , 285x145 pixel , 47,678 bytes.

"ภัยธรรมชาติ พิษเศรษฐกิจ สังคมแตกแยก" ล้วนแต่เป็นปัญหาให้คนยุคนี้ใช้ชีวิตได้ยากขึ้นความสุขลดฮวบลง ไม่ว่ากี่ร้อยพันปี คนเราล้วนต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยเฉพาะสังคมยากลำบากในทุกวันนี้ การแสวงหาความสุขทางใจเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ดังนั้น "ศาสนา" จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนหันกลับวิ่งตามและให้ความสำคัญ สิ่งง่ายที่สุดที่ทุกคนทำได้ก็คือ "การสวดมนต์"

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดัง และผอ.สถาบันวิมุดดยาลัยได้กล่าวถึงการสวดมนต์ไว้ว่า การสวดมนต์ที่กล่าวกันว่ามีบุญมาก มีอานิสงส์มาก ก็เพราะว่าสิ่งที่สวดล้วนเป็นหลักธรรมสำคัญของพระอรหันดสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสิ้น ยิ่งถ้าผู้สวดมนต์ก็อาจอำนวยผลสูงสุดเป็นการบรรลุภาวะพระนิพพานก็ยังได้อีก ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า การสวดมนต์นั้น ถ้าสวดเป็น ก็เห็นธรรม

"ใครที่มีเวลามากพอจะตั้งเป็นกติกาขึ้นมาสำหรับตนเองด้วยการสวดมนต์ตอนเช้าตรู่ หรือตอนเย็น หรือเวลาก่อนนอนก็ทำได้ ไม่มีข้อห้ามจะสะดวกที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่ว่าจะที่วัด ที่บ้าน ที่ทำงาน บนรถส่วนตัว บนรถประจำทาง ยามนั่งรอ ยืนรอ เดินทางไกลก็สวดมนต์ได้ โดยเฉพาะเมื่อจิตใจว้าวุ่น สับสน ต้องการขวัญกำลังใจ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า พระพุทธมนต์นั้น สวดได้ทุกที่ทุกเวลา"

ประโยชน์ของการสวดมนต์ไม่ใช่เพียงเครื่องมือที่ศาสนาสื่อสารเพื่อสร้างความจรรโลงใจ แต่สามารถอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ถึงประโยชน์จากการสวดมนต์ได้ด้วย ดร.อำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงประโยชน์แห่งการสวดมนต์ นอกเหนือไปจากการทำตามคำสอนแห่งศาสนา และความเชื่อที่สืบต่อกันมาว่ามีมากมาย ซึ่งไม่เพียงแต่พุทธบริษัทเท่านั้นที่สวดมนต์ ศาสนาอื่น ๆ ไม่ว่า คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู หรือ ซิกข์ ก็มีการสวดมนต์ด้วยแบบของตนเอง โดยเชื่อว่าสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ศาสนาแต่ละศาสนามีความมั่นคงและคงอยู่มาได้นับพันปีเพราะศาสนิกชนในศาสนานั้นๆ สวดมนต์กันเป็นประจำ ซึ่งทำให้เกิดอานิสงส์มากมาย

เช่น ทำให้ความจำดี ปัญญาดี ดูได้ง่ายๆ จากเด็กวัยเรียนที่สวดมนต์จะเรียนเก่งขึ้น เหตุผล คือ การสวดมนต์เป็นประจำทำให้เกิดสมาธิ เพราะ จิตใจจะจดจ่อกับบทสวด ซึ่งเมื่อมีสมาธิกัยสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกินกว่า 20 นาที จะทำให้สมองส่วนคิดปรับระบบการส่งต่อข้อมูล

แน่นอนว่า การกระทำสิ่งใดด้วยสมาธิย่อมได้ผลดี ไม่ว่าจะเรียนหนังสือ ก็จะจำแม่น คิดเก่ง หากทำงานก็จะเกิดประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น หรือ หากเป็นผู้สูงอายุ การสวดมนต์ก็จะฟื้นฟูสมองและฟื้นฟูความจำได้อย่างดี การสวดมนต์จึงสามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัยและทุกวันยิ่งดี

จิตเมตตากรุณา เนื่องด้วยการสวดมนต์นั้นสร้างสมาธิ เมื่อมีสมาธิจิตใจก็จะสงบ ไม่ว่ามีสิ่งใดมากระทบ ไม่ว่าจะโกรธ เกลียด อิจฉา น้อยเนื้อต่ำใจ อยากได้ อยากมี ก็จะรู้ตัวเร็ว และปลดความทุกข์ที่เกิดขึ้นทิ้งได้โดยง่าย เมื่อใจสงบ ก็ให้อภัยเป็น นั่นคือความเมตตากรุณา ซึ่งการแพทย์พบว่า ผู้ที่คิดบวกอยู่เสมอจะมีสุขภาพจิตที่ดีตามมา

สร้างความเชื่อมั่น บุคลิกดี เพราะบทสวดมนต์มักมีความหมายที่ส่งเสริมให้เกิดกำลังใจผู้มีกำลังใจ จิตใจเข้มแข็ง ก็มักจะมีสุขภาพจิตที่ดี ทำให้เกิดเป็นความมั่นใจในตนเอง โดยแต่ละบทสวดมนต์จะแทรกคำสอน คำพูดในเชิงสร้างสรรค์ เมื่อผู้สวดมีศรัทธาต่อบทสวดมนต์เหล้านั้น ก็จะสร้างพลังจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น ซึ่งผู้ที่มั่นใจในตนเองจะแสดงออกทางบุคลิก ลักษณะท่าทาง ทำให้เป็นที่ยอมรับจากคนทั่วไป

สติแจ่มใส สุขภาพจิตดี เกิดจากสมาธิในระหว่างการสวดมนต์ จะทำให้ใจปลอดโปร่งจากเรื่องต่างๆ บวกกับความเชื่อว่า การสวดมนต์เป็นการประกอบกรรมดี ผู้สวดมนต์จึงเกิดความปลื้มปีติทำให้เกิดจิตใจที่สงบ และรู้สึกเป็นสึก

บอกแล้วใครๆ ก็สวดมนต์ได้



ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/25566

ดร.นพ.กนก อุตวิชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล