รวมสารพัดวิธีบำบัดความเครียด

by kadocom @15-6-54 09.29 ( IP : 119...222 ) | Tags : มุมวิชาการ
photo  , 285x145 pixel , 39,973 bytes.

วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการคลายเครียดกัน...โดยจากการที่ได้มีการค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหลายๆ แหล่งเกี่ยวกับวิธีการคลายเครียดพบรายงานว่า

1. ออกกำลังกายถือเป็นการลดความเครียดอย่างหนึ่งโดยตามรายงานพบว่า

  1. การออกกำลังกายช่วยให้รู้สึกคลายความกังวลต่างๆ ลดความตึงเครียดของระบบประสาทรวมถึงกล้ามเนื้อซึ่งอาจเกิดจากความเครียด ความกังวล ทำให้รู้สึกผ่อนคลายนอนหลับได้สนิท และนานขึ้น

  2. การออกกำลังกายทำให้ร่างกายตื่นตัวอยู่เสมอมีจิตใจที่ปลอดโปร่ง มีสมาธิในการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ดีขึ้นความสามารถในการรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวดีขึ้น

  3. การออกกำลังกายช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื่องจากร่างกายมีการหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีอารมณ์ที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 90-120 นาที หลังจากที่ออกกำลังกาย

  4. การออกกำลังกายทำให้รู้สึกดีกับตัวเอง เมื่อมีความรู้สึกที่ดี รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าก็สามารถช่วยเป็นเกราะป้องกันที่ดีและขจัดความเครียดต่างๆ ที่อยู่รอบตัวออกไปได้

  5. การออกกำลังกายช่วยให้รับประทานอาหารได้ดีขึ้นในคนที่มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่แล้วจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายป้องกัน และจัดการกับความเครียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

  6. การออกกำลังกายช่วยให้นอนหลับสบาย จากการที่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ออกแรงใช้พลังงานรวมถึงจิตใจที่ปลอดโปร่งป้องกันการเกิดโรคต่างๆ จากความเครียด ได้แก่โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โคเลสเตอรอลสูง และโรคหัวใจเป็นต้น

2. การลดความเครียดโดยใช้เทคนิคการฝึกที่เรียกว่า "Mind-body work out" หมายถึง การฝึกทั้งทางร่างกาย และจิตใจไปพร้อมๆ กัน ที่กำลังนิยมกันในตอนนี้ ได้แก่ โยคะ และพิลาทิส เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการฝึกที่ง่ายๆไม่เสียเงิน ไม่เสียเวลา และไม่ต้องเดินทางไปไหน แต่สามารถช่วยลดความเครียดได้เช่นเดียวกัน โดยการทำ "Relaxation breathing" หรือฝึกการหายใจ เพื่อความผ่อนคลาย

โดยสามารถฝึกในท่านั่ง หรือท่านอนที่สบายก็ได้ อยู่ในห้องที่เงียบๆ เป็นการปิดรับสิ่งกระตุ้นรบกวนต่างๆ รอบตัวเราออกไปกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายก็จะลดความตึงเครียด เมื่อไหร่ที่ร่างกายเกิดการผ่อนคลายจิตใจก็จะรู้สึกผ่อนคลายตามไปด้วยช่วยทำให้หลับสบาย สามารถทำได้ 2 ครั้งต่อวัน (เช้า และบ่าย) โดยใช้เวลาในแต่ละครั้งไม่เกิน10 นาที ซึ่งเราอาจจะเรียกการทำอย่างนี้ว่าการนั่งสมาธิก็ไม่ผิดอะไร

3. เทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Muscle relaxation sequence) ลักษณะจะคล้ายกับการฝึกหายใจเพื่อความผ่อนคลายโดยเน้นกล้ามเนื้อแต่ละส่วนของร่างกายเช่นเดียวกัน เพียงแต่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อก่อนแล้วค่อยผ่อนคลายกล้ามเนื้อซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย (Relaxation) อย่างเต็มที่หลังจากทำเสร็จแล้วให้นั่ง (นอน) พักสักครู่ประมาณ2-3 นาที ก่อนที่จะลุกขึ้น ทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาเราเชื่อว่า ด้วยวิธีการ และเทคนิคต่างๆ เหล่านี้จะทำให้คุณๆ ทั้งหลายคลายความเครียดลงได้บ้าง

...อย่างไรก็ตาม จากการค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอีกหนึ่งแหล่งพบรายงานเกี่ยวกับ "วิธีลดความเครียด" ว่าเขาทำกันอย่างไร โดยตามข้อมูลที่ได้ค้นคว้าดังกล่าวพบว่าหากคุณเป็นคนเครียดง่ายไม่ว่าในชีวิตประจำวัน หรือ ในหน้าที่การงานเขามีวิธีง่ายๆ เพื่อแก้ไขดังต่อไปนี้

  1. คุณต้องไม่เป็นคนที่สมบูรณ์แบบหรือพยายามจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง เพราะการพยายามทำตัวแบบนี้จะทำให้คุณเครียดได้อย่างง่ายๆ เลย เพราะคุณจะไม่ปล่อยให้อะไรผิดพลาดเป็นอันขาด ทุกอย่างจะต้องออกมาดี ต้องเนี้ยบไม่มีที่ติ ทั้งๆ ที่บางครั้งมันก็ไม่จำเป็นจะต้องสมบูรณ์แบบขนาดนั้น ฉะนั้นหากคุณรู้จักปล่อยวางอะไรๆเสียบ้าง ก็จะช่วยให้ชีวิตของคุณผ่อนคลายลงได้มากเลย

  2. คุณจะต้องไม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทุกๆ คน เพราะมันจะทำให้คุณต้องแบกภาระของคนอื่นๆมาเป็นภาระของคุณแล้วจะแบกไหวหรือจริงไหม

  3. ปล่อยสิ่งต่างๆ ให้ค้างคาเอาไว้บ้าง การปล่อยงานบางอย่างให้ค้างไว้บ้างน่าจะทำได้ในกรณีที่ไม่ใช่งานรีบด่วนหรือสลักสำคัญอะไรพรุ่งนี้ค่อยทำก็ไม่เสียหายอะไรคุณไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อนไปเสียทุกเรื่องหรอก

  4. คุณจะต้องไม่ปล่อยตัวเองให้ผอมมากจนเกินไป การคอยจำกัดอาหารตัวเอง กลัวอ้วนขึ้นสมองเป็นการเพิ่มความเครียดให้กับตัวเองเปล่าๆ หัดรับประทานอาหารตามใจตัวเองบ้างแต่อย่าให้มากเกินขนาดเท่านั้นก็พอแล้ว

  5. จะต้องรู้จักพูดคำว่า "ไม่" ให้เป็น การรู้จักปฏิเสธผู้อื่นในเรื่องที่เราไม่อยากทำหรือไม่มีเวลาพอที่จะทำให้ก็ถือเป็นสิ่งที่ถูกและไม่เสียหายอะไรเพียงแต่คุณต้องรู้จักปฏิเสธด้วยความนุ่มนวลแต่หนักแน่นและมีเหตุผลเท่านั้น

  6. ต้องรู้จักแบ่งเวลาสำหรับตัวเอง และสำหรับคนใกล้ชิดให้ได้สัดส่วนกัน การแบ่งเวลาเป็นเรื่องสำคัญควรให้มีความสมดุลกันระหว่าง เรื่องงาน ครอบครัว และเวลาพักผ่อน

  7. คุณต้องรู้จักพัก และอย่าทำอะไรให้เป็นประจำสม่ำเสมอไปเสียทุกอย่าง อย่าเคร่งครัดกับตารางเวลาประจำวัน รู้จักยืดหยุ่นเสียบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับคุณสร้างคุกให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัว

  8. หัดทำตัวเป็นคนน่าเบื่อ ไม่เรียบร้อย และไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจของใครๆ บ้างเป็นบางเวลา ซึ่งการรู้จักปล่อยตัวตามสบาย ทำตามใจตัวเอง ไม่จำเป็นต้องทำหล่อทำสวยตลอด 24 ชั่วโมงจะช่วยให้คุณสบายตัว สบายใจมากขึ้น

  9. อย่าหมกมุ่นกับความรู้สึกผิด อะไรที่มันผ่านไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับมาแก้ไขได้ก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะขอเพียงจดจำไว้เป็นบทเรียนเพื่อจะไม่ผิดซ้ำอีกดีกว่า

  10. คุณจะต้องไม่เป็นศัตรูที่เลวร้ายของตัวเอง แต่จะต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง คือ อย่าเอาแต่ตำหนิตัวเอง ลงโทษตัวเองหรือดูถูกตัวเองจงพยายามให้กำลังใจตัวเองหาข้อดีของตัวเองให้พบแล้วก็ชมเชยตัวเอง ชื่นชมความดีของตัวเอง ความเก่งของตัวเอง คุณจะได้มีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไปและนี่ก็คือสาระดีๆ สำหรับสัปดาห์นี้ครับ...

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า โดย ปังปอนด์

นายแพทย์ธวัช ลาพินี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล