"ยาลดโมโห" ...คลายอารมณ์โกรธ

by kadocom @21-1-54 08.51 ( IP : 203...38 ) | Tags : มุมวิชาการ
photo  , 285x145 pixel , 45,461 bytes.

แทบไม่น่าเชื่อว่าคนไทยทุกวันนี้ จะควักปืนฆ่ากันเพียงเพราะขับรถปาดหน้า หรือไม่ให้ขับแซง...ดังเหตุการณ์สะเทือนใจที่เด็กวัย 12 อย่าง น้องโตมี่ หรือ ด.ช.โภคิน ดีผิว ต้องเสียชีวิต เพียงเพราะคู่กรณีไม่พอใจเรื่องไม่ให้แซงรถถึงขั้นควักปืนไล่ขี่มอเตอร์ไซค์ตามยิงถล่มถึง 10 นัด

หรือกรณีล่าสุด กัปตันสายการบินไทย ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช ถูกคนร้ายขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ไล่ยิงเป็นระยะทางร่วม 7 กม. จนได้รับบาดเจ็บบริเวณสะบักด้านซ้าย บนทางพิเศษมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สาเหตุเพียงเพราะการเปิดไฟกะพริบใส่!!

นพ.ธีระ ลีลานันทกิจ ที่ปรึกษาสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา วิเคราะห์ว่า คนที่อยู่บนท้องถนนเมืองไทยโมโหง่ายขึ้น เกิดจากความเครียดสะสม ทำให้มีอาการหุนหันพลันแล่น นำไปสู่การทำร้ายคนอื่นเพราะ "บันดาลโทสะ" แม้ไม่มีตัวเลขแน่นอนว่าคนยิงกัน หรือทำร้ายกันในท้องถนน เพราะบันดาลโทสะกี่คดี แต่เริ่มมีคนไข้และญาติเข้ามาขอรับคำปรึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะแล้ว ตัวอย่างเช่น คนไข้ที่สารภาพว่า ตัวเองเป็นคนใจเย็น ธรรมะธัมโมแต่พออยู่หลังพวงมาลัยแล้ว ทำไมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลย เพียงแค่มีใครมาขับรถแซง หรือขับรถกระชั้นชิดจะโมโหมาก ใช้วาจาด่าทอหยาบคายทำให้แฟนทนไม่ได้ทุกครั้ง จนต้องทะเลาะกันระหว่างขับรถตลอดเวลา

"หรือบางคนอาจเป็นคนดี หน้าที่การงานดี แต่เวลาขับรถไม่ยอมให้ใครแซงเด็ดขาด หากไม่เปิดไฟเลี้ยวหรือไฟขอทาง ถ้าใครทำเขาจะโกรธมากและอยากลงไปทำร้าย ซึ่งเขาก็ไม่รู้ตัวเองว่าทำไม จากการวิเคราะห์คนไข้กลุ่มนี้เบื้องต้น ส่วนใหญ่เป็นพวกช่างระเบียบ หรือคนที่ชอบจัดการทุกอย่างให้อยู่ในระบบระเบียบ กลุ่มนี้เวลาอยู่ในสภาพแวดล้อมทั่วไป เขาสามารถจัดการทุกอย่างได้ดังใจ แต่เวลาอยู่บนท้องถนน เขาไม่สามารถบังคับให้ถนนโล่งหรือบังคับรถไม่ให้ติด หรือสั่งแท็กซี่ให้เปิดไฟเลี้ยวได้ เวลาที่โดนขับปาดหน้าจะรู้สึกเครียดเพราะไม่เป็นระเบียบ ยิ่งถ้าโดนแซงแบบผิดกฎจราจรจะไม่ยอมเลย ถ้ายังควบคุมอารมณ์โกรธได้ก็ไม่เป็นไร แต่บางคนทนไม่ได้ต้องการทำร้ายคู่กรณี"

จิตแพทย์แนะนำว่า ใครที่รู้สึกว่าตัวเองมีอาการข้างต้นควรปรึกษานักจิตวิทยา ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้จะไม่รู้ตัว และไม่เข้ารับการรักษา ถ้าใครมีอาการไม่มากก็อยากแนะนำให้ตั้งสติ กำหนดจิตตัวเองไม่ให้โมโห หรือคิดแง่บวก ทำเป็นเรื่องตลกไป แต่ถ้าใครรู้ตัวว่าทนไม่ได้ เวลาที่ถูกแซงอยากจอดรถลงไปฆ่าทิ้งให้หมด ญาติควรพาคนกลุ่มนี้มาพบจิตแพทย์ก่อนเหตุการณ์จะรุนแรงไปกว่านี้ ปัจจุบันมี "ยาลดโมโห" ที่กินเข้าไปแล้วช่วยให้อารมณ์เย็น ไม่ต้องหุนหันพลันแล่นหรือบันดาลโทสะใส่ผู้อื่น ลักษณะคล้ายยาลดความเครียด ทั้งนี้ ยาลดโมโหมีหลายประเภท ซึ่งแพทย์ต้องตรวจวินิจฉัยคนไข้ก่อน หากเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ ต้องให้ยาที่ปรับสมดุลของสารเคมี หรือคนไข้บางคนอาจเป็นน้ำตาลในเลือดต่ำ ต้องเลือกใช้ยาปรับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม คนไข้ไม่ควรซื้อยากินเอง หรือไปขอเพื่อนกิน เพราะอาจมีผลข้างเคียงอย่างอื่นได้

นอกจากนี้ ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไล่ยิงหรือฆ่าคนอื่นได้ แม้ไม่เคยทะเลาะวิวาทกันมาก่อน นั่นคือ พวกที่มีอาการ "ชักซ่อนเร้น" เป็นโรคที่ปกติจะไม่แสดงอาการออกมา ยกเว้นตอนโมโห หากใครกลั่นแกล้งหรือขัดใจจะอยากระบายความก้าวร้าวออกมา ต้องการซัดแหลกโดยไม่สนใจหน้าไหนทั้งสิ้น พอได้สติก็ตกใจคิดไม่ถึงว่าตนเองทำอย่างนั้นได้อย่างไร อาการเบื้องต้นของคนพวกนี้คือชอบขับรถเร็ว ในต่างประเทศเวลากรอกประวัติส่วนตัว จะมีช่องถามว่า "เคยขับรถเร็วหรือไม่?" เพราะมีผลการศึกษายืนยันว่า คนที่ชอบขับรถเร็วมีโอกาสทำความรุนแรงได้มากกว่าคนปกติทั่วไป

นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันกัลยาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต แนะนำเพิ่มเติมว่า หากใครสงสัยว่าตัวเองหรือคนรอบข้างเป็นพวกบันดาลโทสะง่ายดาย หรืออาจคุมสติไม่อยู่ควักปืนไล่ยิงคนขับรถปาดหน้า ควรเริ่มสังเกตพฤติกรรมเบื้องต้นดังนี้ 1.เวลาโกรธเคยทำร้ายข้าวของหรือไม่ 2.เวลาโกรธมากๆ เคยทำร้ายคนอื่นโดยไม่ตั้งใจหรือไม่ ถ้ามีอาการดังนี้ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่กรมสุขภาพจิต ซึ่งมีการอบรมหัวข้อ "แองเกอร์ แมเนจเมนท์" (Anger Management) หรือการบริหารจัดการกับอารมณ์โกรธ

สำหรับผู้เจอคนขี้โมโหตามท้องถนนนั้น จิตแพทย์แนะนำว่า ไม่ควรยั่วยุ แต่ให้รีบยกมือหรือก้มหัวนิดนึง หรือแสดงอาการขอโทษ แต่ถ้าพบคนปาดหน้ารถให้หยุดแล้วเปิดประตูลงรถเดินดุ่มๆ เข้ามาหา ขอให้อย่าเปิดกระจกรถเด็ดขาด เพราะอาจโดนทำร้ายได้ เนื่องจากคนกลุ่มนี้คุมสติไม่ได้แล้ว วิธีการดีที่สุดคือยกมือไหว้แล้วยิ้มขอโทษ หากเขาตะโกนด่า ก็ให้รับฟังอย่างดีอย่าโต้ตอบ สักพักความโกรธจะหายไป สติกลับมาทุกอย่างจะคลี่คลายลงเอง

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

นายแพทย์ธวัช ลาพินี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล