โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา

งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสารโพรซีดดิ้ง ออฟ เดอะ เนชันนัล อคาเดมี ออฟ ไซน์ส ของสหรัฐอเมริกา ศึกษาชาวนิวซีแลนด์จำนวน 1,000 คนตั้งแต่ปี 1972 จนถึงปัจจุบันพบว่าผู้ที่สูบกัญชาตั้งแต่อายุยังน้อยมีความเสี่ยงที่จะมีไอคิวลดต่ำลงและไม่สามารถที่จะเพิ่มกลับมาเหมือนเดิมได้

ทีมวิจัยจากนานาชาติใช้เวลากว่า 20 ปีในการติดตามชีวิตของกลุ่มคนเกือบ 1,000 คน ที่อาศัยอยู่ในเมืองดูนิดิน ในเกาะทางใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ โดยสังเกตชีวิตตั้งแต่เด็ก โดยมีการทดสอบก่อนที่จะมีการสูบกัญชา และทำการทดสอบอีกครั้งในอีก 25 ปีต่อมาเมื่อกลุ่มผู้ร่วมการทดลองมีอายุได้ 38 ปี โดยทีมวิจัยนำปัจจัยต่างๆ เช่นการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การใช้ยาเสพติดอื่นๆ รวมถึงระยะเวลาที่ผู้ร่วมการทดลองอยู่ในระบบการศึกษามาพิจารณาด้วย ผลปรากฏว่าผู้ที่สูบกัญชาติดต่อกันตั้งแต่วัยเด็กอย่างน้อย 4 ครั้งต่อสัปดาห์ต่อเนื่องกันจนกระทั่งอายุ 30 ปีหรือกว่านั้น มีไอคิวที่ลดต่ำลง ยิ่งระยะเวลาการสูบกัญชานานมากเท่าไรก็จะยิ่งมีไอคิวที่ลดต่ำลงมากเท่านั้น ทั้งนี้โดยเฉลี่ยไอคิวจะลดต่ำลงราว 9 จุด โดยทีมวิจัยชี้ว่าแม้ว่าจะหยุดสูบกัญชาก็ไม่สามารถทำให้ไอคิวกลับเป็นปกติได้อีก

ศาสตราจารย์เทอรรี มอฟฟิต จากสถาบันจิตเวช มหาวิทยาลัยคิงส์ คอเลจ ประเทศอังกฤษ หนึ่งในทีมวิจัยในครั้งนี้ระบุว่าผลการวิจัยนั้นส่งผลต่อความเข้าใจต่ออันตรายของการสูบกัญชา และค่อนข้างมั่นใจว่ากัญชาปลอดภัยต่อสมองของผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีแต่ในทางกลับกันจะเสี่ยงกับสมองของผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี

ศาสตราจารย์โรบิน มารวย จากสถาบันจิตเวช มหาวิทยาลัยคิงส์ คอเลจ ประเทศอังกฤษ ซึ่งไม่ได้ร่วมในงานวิจัยดังกล่าวให้ความเห็นว่า ผลจากงานวิจัยที่เข้มข้นชิ้นนี้นับเป็นข้อมูลที่ดีและเป็นคำตอบของข้อสันนิษฐานที่ว่าผู้ที่สูบกัญชาเป็นระยะเวลานานจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เท่ากับผู้ที่ไม่ได้สูบกัญชา และเป็นสิ่งที่จำเป็นในการให้การศึกษากับสังคมได้รับรู้ถึงอันตรายดังกล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/30361