โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา

"ทำไมผู้ชายยืนฉี่ได้ ผู้หญิงยืนฉี่ไม่ได้" เป็นอีกหนึ่งคำถามของเด็กๆ ในวัยที่กำลังโต และต้องการเรียนรู้ จะเห็นได้ว่า เมื่อเด็กมีการเจริญเติบโตในแต่ละวัยก็จะมีความสนใจของสรีระแตกต่างกัน พ่อแม่เมื่อลูกมีคำถามจะตอบอย่างไร "นู๋เกิดมาจากอะไรคะ" คำตอบของพ่อแม่สมัยก่อนคงตอบว่า "ลูกเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่"

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันถือว่าเป็นคำตอบที่ผิดและมีผลต่อลูกเป็นอย่างมาก ทั้งนี้พ่อแม่ควรให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมาพร้อมแนะนำเมื่อลูกเริ่มเข้าสู่ในแต่ละวัย รวมไปถึงการดูแลตัวเองของผู้หญิง การมีประจำเดือน และการมีเพศสัมพันธ์อย่างถูกวิธี เพราะที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม การมีอคติเชิงลบในเรื่องเพศ ทำให้สังคมมีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นท้องไม่พร้อม การทำแท้ง เป็นต้น

เมื่อเร็วๆ นี้ แผนสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ ร่วมกับศูนย์สื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี จัดเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเรียนรู้สื่อส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกในเรื่อง "เพศคุยได้" โดยเชิญครูในโรงเรียนสังกัด กทม. กว่า 30 คน มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องเพศ ณ ห้องประชุมบ้านพักฉุกเฉิน สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สสส. กล่าวถึงเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัยในกลุ่มวัยรุ่นว่า วัยรุ่นไทยในปัจจุบันมีความรู้เรื่องเพศในทางที่ผิด ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งท้องโดยไม่พร้อม โรคทางเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการทำแท้ง แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโครงการเรื่องเพศคุยได้ เพื่อให้ผู้ปกครองและอาจารย์เปลี่ยนแนวความคิดใหม่ในการที่จะคุยเรื่องเพศกับลูก

"เรื่องเพศเป็นเรื่องที่พ่อแม่ ครู สามารถคุยกับเด็กได้อย่างตรงไปตรงมา และยังพบว่าสถานการณ์ในสังคมไทยขณะนี้ อยู่ในภาวะ "เด็กปรึกษาเด็ก" และจากสถิติการคลอดของวัยรุ่นไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี สูงถึง 336 คนต่อวัน จึงมีความจำเป็นที่เด็กวัยรุ่นเองควรรู้เรื่องเกี่ยวกับอวัยวะเพศตัวเองให้มากขึ้น และให้มองว่าเรื่องเพศไม่เป็นเรื่องที่น่าอาย ถึงแม้การปรับเปลี่ยนทัศนคติในเชิงพฤติกรรมจะเป็นเรื่องยากก็ตาม เด็กควรรู้เกี่ยวกับสิทธิในอวัยวะเพศของตัวเอง และการปฏิเสธที่จะให้ผู้อื่นดูหรือจับต้อง เพื่อป้องกันตัวเองจากคนรอบข้าง ยิ่งคุยเรื่องเพศกับลูกเร็วเท่าไหร่จะยิ่งเป็นเกราะป้องกันลูกเร็วเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันสื่อลามกต่างๆ เข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาสื่อลามกในอินเทอร์เน็ตมีมากขึ้น" น.ส.ณัฐยา กล่าว

ด้านนายชัชภัทท์ วัฒน์ธนัน ผู้อำนวยการพัฒนาสื่อรณรงค์สื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. เล่าถึงการทำสื่อรณรงค์ สปอตโฆษณาเรื่อง "เพศคุยได้" ว่า ในการอบรมครั้งนี้ได้มีการทำสื่อแจกให้กับครูใน กทม. เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับเด็กในโรงเรียน ซึ่งคาดว่าจะทำให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจ และกล้าที่จะพูดคุยเรื่องเพศกับครูมากขึ้น เพราะในปัจจุบันพบว่า เด็กอายุเพียง 9 ขวบ ก็อยู่ในสถานะของความเป็นแม่แล้ว ดังนั้นก่อนที่จะจัดทำสปอตโฆษณาชุดนี้ ได้ทำวิจัยสัมภาษณ์เด็กว่ามีความรู้มากน้อยเพียงใดในเรื่องเพศ ผลปรากฏว่า เด็กมีความรู้เรื่องเพศน้อยมาก และมีความรู้ในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถุงยางอนามัย การกินยาคุม เป็นต้น ทั้งนี้ หลังจากที่ สสส.ได้เผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาออกไป พบว่ามีพ่อแม่จำนวนมากให้ความสนใจโทรศัพท์เข้ามาเพื่อปรึกษา กว่า 1,000 คนต่อวัน ซึ่งผลตอบรับจากสังคมเป็นที่น่าพอใจ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องการเป็นวิธีการที่จะได้เข้าใจลูกมากขึ้น และยังแนะนำอีกว่า พ่อแม่เป็นคนที่น่าจะคุยเรื่องเพศกับลูกมากที่สุด ดีกว่าให้เด็กไปเรียนรู้เอง

น.ส.จิตติมา ภาณุเตชะ ผู้ประสานแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ กล่าวว่า การรณรงค์ครั้งนี้เป็นการจุดประกายให้ประชาชนมองเรื่องเพศเป็นเรื่องเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ โดยแคมเปญนี้จัดขึ้นเป็น 2 ระดับ ในระดับสังคมจะออกทางสื่อกระแสหลัก วิทยุ โทรทัศน์ต่างๆ และการรณรงค์ระดับพื้นที่จะมีองค์กรที่เกี่ยวข้อง 30 กว่าแห่ง เป็นการรณรงค์เคลื่อนที่ไปยังโรงเรียนต่างๆ และร่วมมือกับคุณครู กว่า 200 โรงเรียน จัดสัปดาห์รณรงค์ คุยเรื่องเพศไม่ยากอย่างที่คิด มีการเปิดกว้างเรื่องเพศมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเพศที่สาม ที่พ่อแม่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ

นางสมฤดี ปิ่นแก้ว อาจาร์ยโรงเรียนวัดลาดพร้าว กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้สามารถนำมาปรับใช้ในการเรียนการสอน หัวข้อ "โลกหมุนด้วยมือฉัน" เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเด็กๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทางโรงเรียนเองก็มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องให้เด็กกล้าแสดงออกและสามารถปรึกษาเรื่องเพศกับครูในโรงเรียนได้ทุกคน นอกจากนี้ทางโรงเรียนก็ได้จัดประชุมผู้ปกครองในหัวข้อ "เพื่อลูกรัก" ให้ผู้ปกครองมีทัศนคติใหม่ในการคุยเรื่องเพศกับลูก

ด้านนายสมัตตพงษ์ ใหม่น้อย อาจารย์โรงเรียนบางเขน (ไวสาลีอนุสรณ์) บอกว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการที่ สสส. จัดแคมเปญรณรงค์เรื่องเพศคุยได้ การที่มีสื่อโฆษณาออกมาทำให้มีการเปิดประเด็นการคุยเรื่องเพศกับเด็ก เด็กเองก็มีความกล้าที่จะมาปรึกษาเรื่องเพศมากขึ้น และคิดว่าปัญหาในเด็กวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมน่าจะลดน้อยลง

ถึงเวลาหรือยัง? ที่พ่อแม่จะหันมาเปิดใจคุยเรื่องเพศกับลูกๆ เพื่อลดปัญหาต่างๆ ในสังคม .."เรื่องเพศคุยได้" คุยง่ายกว่าที่คิด

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง