อันตราย "ยาบ้า"เทรนด์ใหม่นักเรียน...ชนบท
หัวไร่ปลายนากลายเป็นแหล่งสุมของเด็กในชนบท นักเรียน ม.ต้นหันเข้าสู่วงจรยาเสพติดเหตุผลเพียงเพื่อไม่ให้ตก "เทรนด์" นับตั้งแต่นโยบายสงครามยาเสพติด ลมความเข้มข้นลง สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะในหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งพักยาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจปราบปรามยาเสพติดระบุว่า สิงห์บุรีเป็นจังหวัดหนึ่งในพื้นที่ภาคกลางที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน ซึ่งปัจจุบันเด็กอายุเพียง 14-15ปี ก็ติดยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้านกันแล้ว
"คม ชัด ลึก" ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่าที่บ้านดอนจันทร์ หมู่ 2ต.บ้านจ่า อ.บางระจัน มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตรงกับข้อมูลการสืบสวนของตำรวจปราบปรามยาเสพติดซึ่งได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้
กระท่อมกลางนาท้ายหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันติดปาก ย่านต้นสารภี ซึ่งชาวนาเคยใช้เป็นสถานที่พักผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยขากกาทำนากลายสภาพเป็นสถานที่มั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะนักเรียนที่อยู่ระหว่างปิดภาคเรียน
เอ (นามสมมติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนแหน่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในละแวกนี้ พร้อมกับเพื่อนสนิทอีก 3คน คือ ป้อมหนึ่ง และสอง (ทั้งหมดเป็นนามสมมติ) แวะเวียนมาใช้กระท่อมหลังนี้ล้อมวงเสพยาบ้านกันเป็นประจำ จนกลายเป็นกิจวัตร
เอ มีรูปร่างผอม หน้าตาซีดเซียวดวงตาแห้งผาก หน้าตาเลิ่กลั่ก และไม่กล้าสบตาผู้คนที่สนทนาด้วย ตามร่างกายมีเหงื่อแตกพลั่ก ไม่แตกต่างกับเพื่อนของเขาอีก 3คน ซึ่งอยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน
ทั้งหมดต่างกุลีจอนั่งล้อมวงลงบนแค่รทันทีที่เข้ามาถึงกระท่อมหลังนี้ โดยเอหยิบเอาหลอดกาแฟสีแดงภายในบรรจุยาบ้าเม็ดสีส้ม 2เม็ด ออกมาจากประเป๋ากางเกง นำมาบดลงบนกระดาษฟอยล์ซึ่งเป็นซองด้านในซองบุหรี่จนละเอียดแล้วจุดไฟเผา หลังจากนั้งทั้ง 4คนก็สลับสับเปลี่ยนกันสูดเอาควันเข้าร่างกาย ราวกับคนที่กระหายมาอย่างหนัก
"เดี่ยวนี้เขาเสพยาบ้ากันอย่างนี้ทั้งนั้น เขาเรียกว่าดูดยาบ้า ไม่มีใครเขากินกันหรอก เพราะมันออกฤทธิ์เร็วกว่าเยอะ มันรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างบอกไม่ถูก สมองมันโล่งๆ มีเรี่ยวมีแรงกว่าปกติเยอะ" เอบอก หลังจากสูดควันยาบ้าเข้าไปไม่นาน
หลังสูดดมเอาควันของยาบ้านเข้าร่างกาย เอ และเพื่อน มีท่าทางกระปรี้กระเปร่าขึ้น พูดจาไม่ยอมหยุดสายตาสอดส่ายไปมา ราวกับหาอะไรสักอย่าง คล้ายกับคนหวาดระแวง
เอเล่าว่า เสพยาบ้ามาได้ระยะหนึ่งหลังถูกเพื่อนในหมู่บ้านชักชวนให้เสพเพราะไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก ใครๆ ในย่านนี้ก็เสพกันทั้งนั้น ผู้ใหญ่ก็เสพกันเยอะอายุ 40กว่าก็ยังมี ทั้งผู้หญิงและผู้ชายยิ่งกลุ่มที่ต้องออกจับสัตว์ในเวลากลางคืน เช่น งู และ กบ ก็ยิ่งเสพกันมาก เพราะเมื่อยาออกฤทธิ์จะทำให้สามารถตระเวนหาสัตว์ตามท้องนาได้เป็นเวลานานโดยไม่เหน็ดเหนื่อย
"ผมไม่รู้ทำอะไรดีพี่ ช่วงโรงเรียนปิดภาคเรียนมีเวลาว่างเยอะ พ่อกับแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปทำงานกัน ผมก็อยู่กับเพื่อนเที่ยวกันไปเรื่อย เห็นรุ่นพี่เขาเสพกันพวกผมก็ลองดูบ้าง พอมีครั้งแรกก็มีครั้งต่อๆ มา จนถึงวันนี้ก็เกือบปีละ" เอเล่าถึงสาเหตุที่ทำ ให้กลายเป็นเด็กติดยา
เอบอกว่า ยาบ้าหาไม่ยากในชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ โดยซื้อขายกันในหมู่คนที่คุ้นเคย สนราคาเม็ดละ 200บาท โดยเขาและเพื่อนจะรวมเงินที่ผู้ปกครองให้ไว้เป็นค่าขนมนำไปซื้อยามาเสพ แต่ถ้าหากช่วงเวลาใดที่ไม่มีเงินก็จะรับอาสาคนที่ขายยาบ้านให้นำของไปส่งตามจุดที่เขาบอก แลกกับยามาเสพคราวละ 5-10เม็ด บางครั้งก็ได้เป็นเงินสด ด1,000-2,000บาท ซึ่งจะนำมาแบ่งกัน ส่วนสถานที่ที่เสพแล้วแต่สะดวก อาจจะเป็นบ้านของใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มซึ่งผู้ปกครองไม่อยู่บ้าน หรือไม่ก็กระท่อมกลางนาซึ่งค่อนข้างเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครผ่านไปผ่านมา
ไม่เฉพาะวัยรุ่นชายเท่านั้นที่ตกเป็นทาสของยาเสพติด เอกล่าวว่า มีเพื่อนผู้หญิงหลายคนมีพฤติกรรมเสพยาบ้าเช่นกัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ติดยาเสพติดมีสาเหตุใกล้เคียงกัน คืออยากรู้อยากดลอง โดยมีกลุ่มเพื่อนที่เคยเสพมาก่อนชักชวน
"ผู้หญิงก็เยอะพี่ เพื่อนผมก็หลายคน พวกนี้สบายมากกว่าผมอีก เพราะหายาง่ายไม่มีเงินก็ใช่ร่างกายเข้าแลก ครั้งสองครั้งก็ได้มาเสพแล้ว พวกนี้ยอมหมดแหละขอให้มียา ไม่มีใครอายกันหรอกมันเป็นเรื่องปกติ เพราะทำกันทั้งนั้น พี่สังเกตง่ายๆ หากใครติดยา จะสูบบุหรี่จัดชนิดมวนต่อมวน หน้าตาซีดเซียว ตัวผอมออกเหลืองๆ ไม่ค่อยกินข้าว พูดมากบางทีพูดไม่รู้เรื่อง ผมก็เป็นบ่อย" เอบอกถึงวิธีสังเกตเด็กวัยรุ่นที่ตกเป็นทาสยาเสพติด
"คม ชัด ลึก" พยายามสอบถามถึงเหตุผลที่เด็กกลุ่มนี้ต้องเสพยาบ้าทั้งๆ ที่รู้ถึงพิษภัยเป็นอย่างดี กลับได้รับคำตอบที่ฟังแล้วน่าตกใจว่า มันเป็นเหมือนแฟชั่นเพราะเด็กในวัยของเขาจำนวนไม่น้อยที่นิยมเสพยาบ้า ใครไม่ติดยา จะไม่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อนฝูง
นี่คือประสบการณ์ชีวิตของเด็กนักเรียนวัยแค่ 13-15ปี ใน จ.สังห์บุรี ซึ่งสะท้อนให้เห็นการกลับมาแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของยาเสพติดในระยะนี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
Relate topics
- แนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
- คู่มือการใช้งาน Hosoffice
- คู่มือการใช้งานโปรแกรม HRMS
- อาการผิดปกติทางจิต ไม่ได้หมายถึงโรคจิตเสมอไป
- มาตราฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ
- ดูแลสมองไว้ ห่างไกลโรค
- ‘สารพิษ’ ภัยร้ายต่อจิต
- คุณรู้จัก `ออร์แกนิก` ดีแค่ไหน?
- รู้ได้อย่างไรว่าลูกเสพยาเสพติด
- ต้นอ่อนทานตะวัน แหล่งสารอาหารสุขภาพ