เจริญสติรับปีใหม่

by kadocom @5-1-54 11.22 ( IP : 203...38 ) | Tags : มุมวิชาการ
photo  , 329x249 pixel , 39,164 bytes.

"ชีวิตของเรานี้เป็นทุกข์ได้เกิดจากเหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่สบายใจล้วนมีปัจจัยดังต่อไปนี้ความแก่ เจ็บ และ ตาย ของเรา ญาติพี่น้อง บุคคลรอบข้างซึ่งผลที่ปรากฏในปัจจุบันเรียกว่า กรรมเก่า" พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก วัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน จ.กาญจนบุรี

เทศนาเพื่อเรียกสติพุทธศาสนิกชน ในระหว่างเทศกาลเจริญสติรับปีใหม่...ชีวิตใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ่งหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ กรุงเทพมหานครกระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และโครงการศูนย์สื่อ ศิลปะ มหรสพเพื่อปัญญาร่วมกันจัดขึ้น

พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโกอธิบายต่อว่า พ่อ แม่ พี่ น้อง ประเทศชาติเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่ปรารถนาและไม่ปรารถนา โดยเฉพาะมนุษย์ มักคิดถึงแต่ความไม่สบายใจ เราไม่ควรหวั่นไหวต่อเรื่องราวต่างๆ ไม่ยินดี ยินร้าย หมายความว่าพระพุทธเจ้าที่มี "พรหมวิหาร 4" เมตตากรุณา มุทิตา อุเบกขา ที่ตรัสรู้ ก็ย่อมหนีไม่พ้นสิ่งที่ไม่ปรารถนาได้เช่นกัน

สิ่งเหล่านี้เหมือนลมข้างกาย ถ้าเราใช้ชีวิตยอมรับกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ก็จะเกิดประโยชน์ ให้เข้าใจว่าอดีตล้วนเป็นเช่นนั้นเอง จงทำจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันเป็น "สันทิฏฐิโก" ในความสุขที่แท้จริงแล้วนั้นพุทธศาสนิกชนทั้งหลายล้วนหวังเข้าสู่ "นิพพาน" เรียกได้ว่าเป็นความสุขที่แท้จริง จึงทำให้เกิดการเจริญภาวนาสติขึ้นอยู่สม่ำเสมอ เมื่อเปรียบเทียบกับความสุขที่ไม่แท้จริง จะหวนนึกคิดจมปลักอยู่แต่เรื่องราวในอดีตและอนาคต แม้ว่าจะแสวงหาความสุขเป็นหมื่นเป็นแสนปี ก็จะไม่มีความสุข เราควรเอาใจใส่ในปัจจุบันให้มากที่สุด ยึดอิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา

เพิ่มการเจริญสติ สติเรารู้ในลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ไม่ควรที่จะไปยินดียินร้าย นั้นหมายถึง อย่านึกคิดและปรุงแต่ง คิดถึงความรู้สึกที่พอใจ และไม่พอใจใครจะนินทา สรรเสริญเราต้องทำใจให้สงบ เช่น หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เราจะรับรู้สติด้วยลมหายใจเข้าออกทุกครั้ง สติปัญญาล้วนอยู่เหนืออารมณ์ รู้จักควบคุมความคิด ปล่อยวาง อารมณ์ที่สงบ

อีกวิธีหนึ่งคือ การนั่งสมาธิ นั้นเป็นการสัมผัสประสบการณ์ รัก เมตตาแก่ตนเอง หากคนไทยรวม 65 ล้านคนมีเมตตาในตนเองก็จะทำให้เราสบายใจ จงอย่าเข้าใจว่ารักตนเองคือการเห็นแก่ตัว เราต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มีจิตใจที่สงบ ไม่ยินดียินร้ายต่อเรื่องใดๆ

เพราะสมองของมนุษย์เปรียบเสมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อเราตั้งใจทำสมาธิเราก็ต้องปิดคอมพิวเตอร์ไม่ต้องคำนวณใดๆ ทั้งสิ้น ดั่งพระพุทธเจ้าท่านได้เปรียบเทียบเอาไว้จิตของเรานี้อาศัยอยู่ในถ้ำ คือจิตของเราอยู่ในร่างกายต้องบังคับไม่ให้ออกไปนอกบ้านคือไม่ให้คิด ไม่ยินดี ยินร้าย เรื่องในอดีตพยายามทำลมหายใจให้เป็น กัลยาณมิตร

"การทำจิตใจที่จะต้องเจริญอาณาปานัสสติ เปลี่ยนเป็นผู้ที่มีเมตตา มีความรักตัวเอง วันนี้เรามีความรู้สึกรักคนนี้ คนนั้น บางคนก็ได้รับความเสียใจที่ไม่ได้รับความรักที่เราต้องการตอบแทนกลับมาชีวิตของเราก็จะเป็นทุกข์ เพราะพยายามฝากชีวิตไว้กับคนอื่น ลองจินตนาการดูว่า เมื่อเราต้องการน้ำ แต่มีแต่น้ำแข็งก็ดีใจที่ได้น้ำแข็งซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน น้ำแข็งพาความร้อนสัมผัสกับความร้อน น้ำแข็งก็จะละลาย ทุกข์อยู่ที่ไหนต้องเจริญสติสัมปชัญญะอยู่ที่นั้น แทนที่เราจะส่งจิตออกไปข้างนอก เพื่อโกรธ ทุกข์ใจ ทำให้ไม่สบายใจ"

ไม่คิดน้อยใจ ไม่คิดโกรธ ไม่คิดกลัวไม่ขี้เกียจ ไม่ฟุ้งซ่านเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วก็พยายามควบคุมสติโดยการฝึกลมหายใจเข้าลมหายใจออก สามารถปล่อยวางละลายหายไปได้ตัวเราเอง จะพบกับความสุขได้เพราะธรรมชาติของจิตใจของมนุษย์นั้นมีแต่ความสุขและสงบ เราต้องยิ้มน้อยๆ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ หายใจเข้าสบายหายใจออกสบาย ทำใจสบายๆ เพื่อต้อนรับปีใหม่และปีต่อๆ ไป

คู่มือฝึกนั่งเจริญสติ

วิธีปฏิบัติ

  • กำหนดรู้ในใจว่า 'อยากนั่งหนอ' ช้าๆ 3 ครั้ง

  • นั่งในท่าที่สบาย กำหนดอิริยาบถ วางมือขวา และซ้ายไว้บนเข่า

  • ยกมือซ้ายและมือขวามาวางซ้อนกันบนตักโดยกำหนดรู้ในใจ

  • ขยับตัวให้ตรง กำหนดรู้ว่า 'ตั้งหนอ'

  • ค่อยๆ หลับตาลง กำหนดรู้ว่า 'หลับหนอ' หายใจตามปกติ

  • การหายใจให้เป็นไปตามธรรมชาติและกำหนดรู้ตามนั้น

  • หากใจเผลอคิดไปเรื่องอื่น ให้กำหนดรู้ว่า 'คิดหนอ' จากนั้นให้กลับไปกำหนดรู้ลมหายใจที่จมูกเหมือนเดิม

  • กำหนดรู้ว่า 'อยากพักหนอ' ช้าๆ ลืมตาขึ้นกะพริบ โดยกำหนดรู้ว่า 'เห็นหนอ กะพริบหนอ' แล้วค่อยๆ คืนอิริยาบถ

จาก คู่มือนำชมนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้และทดลองปฎิบัติ 'นิพพาน' (ฉบับพกพา) หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

นายแพทย์ธวัช ลาพินี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล