ดื่มสุราเสี่ยงมะเร็ง-เกาต์

by kadocom @2-9-53 08.47 ( IP : 203...225 ) | Tags : มุมวิชาการ
photo  , 250x200 pixel , 37,523 bytes.

สำหรับนักดื่มที่ร่ำสุราเป็นอาจิณคงต้องชะงักและชะลอความอยากดื่มกันเสียแล้ว เพราะผลวิจัยต่างประเทศระบุชัดเจนว่า คนดื่มสุราจะมีความเสี่ยง "โรคมะเร็ง" และ "โรคเกาต์" สูงกว่าคนปกติเกือบ 2 เท่า ขณะที่การดื่มสุราควบคู่กับการสูบบุหรี่จะมีโอกาสเกิดมะเร็งในช่องปากสูงถึงร้อยละ 90

        ต้องยอมรับว่าการดื่มสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้น สร้างผลร้ายต่อทั้งสุขภาพคนดื่ม ครอบครัว ซ้ำยังส่งผลต่อปัญหาสังคม โดยจากข้อมูลการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 15 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด ผู้ดื่มส่วนใหญ่เป็นชายถึง 13 ล้านคน แต่ที่น่าห่วงคือกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 1 ใน 4 ไม่เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเด็กในครรภ์ โดยอาจทำให้ลูกพิการ สมองถูกทำลาย อีกทั้งเด็กที่คลอดมาก็มีโอกาสเป็นคนติดสุราด้วย

        นอกจากนี้ ยังมีโรคร้ายที่คอยจ้องรังควาญและก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานแก่คนที่ชอบดื่มสุราก็คือ โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ โดยเฉพาะโรคเกาต์ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาวิจัยแล้วพบว่าการดื่มสุรา รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทเบียร์เป็นสาเหตุให้เกิดโรคเกาต์ได้ การวิจัยครั้งนี้ได้ทำการติดตามผลกระทบทางสุขภาพของผู้ชายที่ดื่มสุราจำนวน 47,000 ราย ติดต่อกันเป็นเวลากว่า 12 ปี ในจำนวนนี้ ตรวจพบว่าเป็นโรคเกาต์ทั้งหมด 730 ราย

        โรคเกาต์นั้นเกิดจากการเผาผลาญพิวรีน หรือนิวคลิโอโปรตีนในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีกรดยูริกคั่งในเลือดสูง และสะสมตามข้อเล็กๆ

        โดยงานวิจัยดังกล่าวพบว่า การดื่มเบียร์วันละ 2-3 แก้ว จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเกาต์มากกว่าคนที่ไม่ดื่มเบียร์ถึง 2 เท่าครึ่ง และหากดื่มสุราวันละ 2-3 แก้ว จะเสี่ยงเป็นโรคเกาต์มากกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 1.6 เท่า ทั้งนี้ สาเหตุที่คนดื่มเบียร์เสี่ยงโรคเกาต์สูงกว่าคนดื่มสุรา เนื่องจากในเบียร์นั้นมีสารพิวรีนเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่สูง จึงเป็นตัวกระตุ้นการคั่งของกรดยูริกในเลือดมาก ดังนั้น ผู้ที่เคยดื่มเบียร์หรือสุรามากเกิน 2 แก้วต่อวัน ควรเพลาการดื่มลงเสีย แต่ถ้าหยุดดื่มได้ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ การที่คุณไม่ดื่มสุรา ก็จะช่วยลดอัตราความเสี่ยงของโรคไตวาย ซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนของโรคเกาต์อีกทางหนึ่งด้วย

        บรรดาสิงห์นักดื่มที่ควบบทสิงห์อมควันไปด้วย คือ ทั้งดื่มสุราทั้งสูบบุหรี่โดยคิดว่าเป็นการเพิ่มอรรถรสในวงสุราจะมีความเสี่ยงเป็น "โรคมะเร็งในช่องปาก" ได้พอๆ กับการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา ที่พบที่อวัยวะเพศชายจากการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งที่ปากพอๆ กัน โดยจากการสำรวจพบว่า 75 - 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมะเร็งในช่องปาก มีประวัติการดื่มสุราจัดและสูบบุหรี่มาก่อน ดังนั้น ทั้งสุราและบุหรี่จึงจัดว่าเป็นเพชฌฆาตที่คร่าชีวิตคุณได้


        ถึงเวลาหรือยังที่บรรดาสิงห์อมควันและนักดื่มทั้งหลายจะหันหลังให้กับบุหรี่และสุรา หากเพื่อนฝูงและคนที่คุณรักเขาห่วงใยคุณจริงๆ คงไม่ชวนคุณลงเหวทางอ้อม ด้วยการชนแก้ว เพราะน้ำเมา 1 แก้วกับบุหรี่ 1 มวนนั้น ล้วนรังแต่จะทำให้คุณ "อายุสั้น" ลงทุกวินาที



ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

http://www.thaihealth.or.th/node/16827

นายแพทย์ธวัช ลาพินี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล