ขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่ ทางพ้นทุกข์ของคนไทย
การประกาศขึ้นภาษีเหล้าทุกประเภทชนิด เบียร์ เครื่องดองของเมากระทั่งถึงบุหรี่ของรัฐบาลคงทำให้นักดื่มสูบอารมณ์เสียไม่น้อยทีเดียวเพราะจะต้องควักกระเป๋าเพิ่มขึ้น
หมายถึงว่า ต่อแต่นี้ไปนักดื่ม นักสูบจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเฉลี่ยต่อหน่วยหลายสตางค์ ยิ่งถ้าจ่ายครั้งละหลายหน่วยก็เพิ่มเงินขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วจะไม่ให้นักดื่มนักสูบเดือดร้อนจนทำให้อารมณ์เสียได้ยังไง แค่ราคาเดิมๆ ที่เสพอยู่ทุกวี่ทุกวันก็หนักหนาสาหัสสากรรจ์อยู่แล้ว ลูกเมียคนในครอบครัวพลอยอดๆ อยากๆ แทบทุกมื้ออยู่แล้ว เหตุมาจากคนเดียวที่ดื่มที่สูบเอาเงินไปปรนเปรอสุขเฉพาะตัว โดยไม่รู้สึกถึงความทุกข์ยากของคนในครอบครัวแม้แต่น้อย
ถ้าคนเห็นแก่ตัวมีสองคนก็คูณเข้าไป
ไม่เพียงเท่านั้นคนเห็นแก่ตัวดังกล่าวเข้าบ้านหิวโซก็ต้องอดไปด้วยแต่ไม่มีสติสำนึกแทนที่จะโทษตัวเองกลับไปทำร้ายคนในบ้านเพิ่มทุกข์ให้ครอบครัวอีก ก่อความแตกร้าวจนหลายต่อหลายครอบครัวถึงกับเจ็บตาย
บ้านแตกสาแหรกขาด เพียงเพราะเจ้าตัวแอลกอฮอล์และเจ้าบุหรี่ครอบงำให้ขาดสติสัมปะชัญญะจนหมดปัญญาคิดให้พิจารณาเห็นว่าอะไรถูกอะไรผิด
หลายต่อหลายครอบครัวเพิ่มหนี้สินเพราะคนเมาขาดสติแค่คนเดียวอีกต่างหาก
นั่นแค่ช่วงที่รัฐบาลยังไม่ขึ้นภาษีแอลกอฮอล์-บุหรี่ยังทุกข์หนักอย่างนี้ แล้วนี่รัฐบาลบังคับให้คอเหล้าคอเบียร์คอบุหรี่ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม ต้องยิ่งเป็นการเพิ่มทุกข์เพิ่มความปวดร้าวให้คนกลุ่มนี้อีกหลายเท่า
จึงเป็นการแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้จะต้องบ่นด่ารัฐบาลอย่างสาดเสียเทเสียเผลอๆ รวมไปถึงคนผลิตเครื่องดองของเมาทุกชนิดต้องพลอยผสมโรงบ่นด่าไปด้วย เพราะช่วงสั้นยอดขายต้องชะงักทำให้ยอดขายลดลงแน่นอนเผลอๆ ระยะยาวถ้าคอเมามีสติคืนมาเมื่อใดเลิกเป็นนักเลงสุราถาวร พวกผลิตของมึนเมาอาจเจ๊งไปตามๆ กันก็ได้ใครจะรู้
รัฐบาลขึ้นภาษีตรงนี้ อย่างแรกเลย คือ การชะงักงันนักเมาทั้งหลายจนอาจจะต้องลดค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ที่เพิ่มขึ้นแม้จะเพียงชั่วครู่ชั่วยามก็เถอะ อย่างต่อมาเป็นที่หวังว่าการชะงักชั่วครู่นั้นจะดึงสติกลับมาให้หยุดใช้ปัญญาออกมาคิดได้บ้างว่าเงินที่ใช้ไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละวันแต่ละเดือนนั้น เมื่อเก็บสะสมโดยไม่ใช้ไปในการดังกล่าวเหลือเป็นสมบัติของครอบครัวมหาศาล
รวมถึงเงินทองที่ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุเพราะความเมาอีกนับไม่ถ้วนว่าจะเดือนละกี่มากน้อย ก็จะไม่ต้องเสียครอบครัวนั้นๆ จะพ้นความเดือดร้อนไปมากแค่ไหน ความสุขจะแผ่ซ่านไปทั่วบ้าน
มิหนำซ้ำยังกำจัดขี้ต่างๆ ออกไปจากตัวคนหยุดแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นขี้เกียจ ขี้ลักขโมยออกไป
ตัวขยันหมั่นเพียรกลับคืนมา นอกจากลดค่าใช้จ่ายแล้วยังเพิ่มรายได้ขึ้นเรื่อยๆ จากตัวขยันอีกด้วย
ให้ไม่ชอบรัฐบาลแค่ไหนจนคิดในแง่ร้ายที่ออกมาตรการนี้มา แต่ความจริงย่อมเป็นความจริงสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นผลดีแก่คนไทยและชาติบ้านเมืองทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นการทำร้ายประชาชนแม้แต่นิดเดียว มีแต่ให้คุณ มีแต่เป็นไปด้วยความรักความหวังดี รัฐบาลกำลังใช้วิธีการให้คนไทยประหยัด รัฐบาลกำลังดึงสติกลับมาสู่สำนึกประชาชนเมื่อมีสติ เมื่อประหยัดย่อมมีกินมีอยู่ไม่เดือดร้อน โรคภัยไข้เจ็บก็น้อยลง อุบัติเหตุจากการขาดสติน้อยลงการสูญเสียย่อมต้องน้อยลงเมื่อกินอยู่ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายจนเกินเหตุ ความเบียดเบียน การแย่งชิงกัน สังคมก็สงบสันติ
ทุกครอบครัวก็อยู่กันอย่างมีความสุข ทุกครอบครัวมีสุขกลายเป็นภาพรวมของสังคมประเทศชาติที่เปี่ยมด้วยสุขสงบ
รัฐบาลเองได้ภาษีแม้จะเป็นภาษีจากปูก็เถอะ อย่างน้อยก็คือตัวเม็ดเงินที่เป็นรูปธรรมในการประคับประคองบ้านเมือง
การขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่จึงเป็นจุดเริ่มการถางทางให้คนไทยทั้งประเทศเดินก้าวข้ามห้วงแห่งทุกข์ ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขอย่างยั่งยืนด้วยลำแข้งของตัวเองแบบพออยู่พอกินหรือที่รู้กันว่าแบบเศรษฐกิจพอเพียงทางหนึ่ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
Relate topics
- แนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
- คู่มือการใช้งาน Hosoffice
- คู่มือการใช้งานโปรแกรม HRMS
- อาการผิดปกติทางจิต ไม่ได้หมายถึงโรคจิตเสมอไป
- มาตราฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ
- ดูแลสมองไว้ ห่างไกลโรค
- ‘สารพิษ’ ภัยร้ายต่อจิต
- คุณรู้จัก `ออร์แกนิก` ดีแค่ไหน?
- รู้ได้อย่างไรว่าลูกเสพยาเสพติด
- ต้นอ่อนทานตะวัน แหล่งสารอาหารสุขภาพ