Contents

444 items|« First « Prev 9 10 (11/45) 12 13 Next » Last »|
โดย kadocom on 28-9-60 11.13

เมตฟอร์มิน (Metformin)1. เบาหวานชนิดที่ 2 ทุกรายควรได้รับยานี้เป็นยาขนานแรก (ยกเว้นมีข้อห้ามใช้)2. การใช้ยานี้ต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มิฉะนั้นจะรักษาไม่ได้ผล3. โดยทั่วไปยานี้ไม่ทำให้เกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ (หิว มือสั่น ใจสั่น)4. ห้ามใช้กับถ้ามีไตวายเรื้อรังขั้นรุนแรง (ระยะที่ 4 และ 5

โดย kadocom on 28-9-60 11.12

แอมโลดิพีน (Amlodipine)1. แพทย์อาจใช้ยานี้ด้วยสาเหตุอื่นนอกเหนือจากภาวะความดันเลือดสูง หากสงสัยให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร2. ยานี้อาจทำให้เกิดการบวมที่เท้า ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่ส่วนปลายของร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นการบวมในระดับน้อยถึงปานกลาง และมักไม่จำเป็นต้องหยุดยาเนื่องจากไม่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยแต่เมื่อมีอาการบวมควรแจ้งให้แพทย์ทราบอาการบวมนี้ไม่ได้หมายถึงการเป็นโรคไต

โดย kadocom on 28-9-60 11.11

อีนาลาพริล (Enalapril)1. แพทย์อาจใช้ยานี้ด้วยสาเหตุอื่นนอกเหนือจากภาวะความดันเลือดสูง หากสงสัยให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร2. ยานี้อาจทำให้เกิดการไอเรื้อรัง ลักษณะไอแบบแห้ง ๆ หรือกระแอม รู้สึกคันในลำคอ อาการนี้เป็นผลข้างเคียงจากยา ซึ่งรักษาไม่ได้ด้วยยาแก้ไอหรือยาอื่นใดรวมทั้งยาปฏิชีวนะเมื่อหยุดยาอาการไอจะหายไปในเวลาไม่กี่วัน ผู้ป่วยไม่ควรหยุดยาเองเพราะจะทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น

โดย kadocom on 28-9-60 11.09

ดอมเพอริโดนชนิดน้ำ (Domperidone Syr)1. ยานี้อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากใช้เกินขนาด ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ใช้กับผู้ที่มีการทำงานของตับลดลงในระดับปานกลางถึงมาก ผู้มีจังหวะการเต้นหัวใจผิดปกติ หรือใช้ร่วมกับยาที่ส่งผลเสียต่อจังหวะการเต้นของหัวใจหรือเป็นยาที่ทำให้ระดับดอมเพอริโดนสูงขึ้นในเลือดซึ่งมีอยู่หลายชนิด2.ไม่ควรใช้ยานี้เกิน 0.25 มก./กก./ครั้ง3. ไม่ควรใช้ยานี้เกิน 0.75 มก./กก./วัน4.

โดย kadocom on 28-9-60 11.07

ดอมเพอริโดนชนิดเม็ด (Domperidone Tab)1.ยานี้อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากใช้เกินขนาด ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ใช้กับผู้ที่มีการทำงานของตับลดลงในระดันปานกลางถึงมาก ผู้มีจังหวะการเต้นหัวใจผิดปกติ หรือใช้ร่วมกับยาที่ส่งผลเสียต่อจังหวะการเต้นของหัวใจหรือเป็นยาที่ทำให้ระดับดอมเพอริโดนสูงขึ้นในเลือดซึ่งมีอยู่หลายชนิด2.ไม่ควรใช้ยานี้เกิน 1 เม็ด/ครั้ง3. ไม่ควรใช้ยานี้เกิน 3 เม็ด/วัน4. ไม่ควรใช้ยานี้ติ

โดย kadocom on 28-9-60 11.06

อะมอกซีซิลลินชนิดน้ำ (Amoxycillin Syr)1.ยานี้เป็นยาปฏิชีวนะ ไม่มีคุณสมบัติในการแก้อักเสบ และไม่ออกฤทธิ์ต่อไวรัส2.การมีไข้ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ ในเด็กส่วนใหญ่ ประมาณ 8 ใน 10 ครั้ง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งใช้ยานี้รักษาไม่ได้ แต่หายได้เองด้วยภูมิต้านทานโรค อาการเหล่านี้อาจเป็นอยู่นาน 1-2 สัปดาห์3.การใช้ยานี้โดยไม่จำเป็นเพิ่มความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยา เช่น อาการท้องร่วงหรือาจแพ้ขั้นรุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้4.การใช้ยานี้อย่างพร่ำเพรื่อนำไปสู่ปัญห

โดย kadocom on 28-9-60 11.04

อะมอกซีซิลลินในโรคคออักเสบ (Amoxycillin)1.ยานี้เป็นยาปฏิชีวนะ ไม่มีคุณสมบัติในการแก้อักเสบ และไม่ออกฤทธิ์ต่อไวรัส2.ไม่ควรเรียกยานี้ว่า โยาแก้อักเสบโ3.การใช้เพื่อรักษาอาการเจ็บคอจากแบคทีเรีย ต้องใช้ยานี้นาน 10 วัน เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เช่น ลิ้นหัวใจรั่ว4.โรคหวัด ไอ เจ็บคอ มากกว่า 8 ใน 10 ครั้ง ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา5.การใช้ยานี้อย่างพร่ำเพรื่อทำให้แบคทีเรียดื้อยา ทั้งดื้อต่อยานี้และยาปฏิชีวน

โดย kadocom on 28-9-60 11.02

อะมอกซีซิลลินในโรคไซนัสอักเสบ (Amoxycillin)1.ยานี้เป็นยาปฏิชีวนะ ไม่มีคุณสมบัติในการแก้อักเสบ และไม่ออกฤทธิ์ต่อไวรัส2.โรคไซนัสอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะเพราะหายได้เองด้วยภูมิต้านทานโรค3.ผู้เป็นไซนัสอักเสบที่ควรใช้ยาปฏิชีวนะคือผู้ที่มีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง หรือมีอาการดีขึ้น ในช่วง 5-6 วันแรก แต่กลับเป็นใหม่ หรืออาการไมดีขึ้นภายใน 10 วัน4.เนื่องจากปัญหาเชื้อดื้อยา บางครั้งต้องใช้ยาในขนาดสูงเป็นสองเท่าของขนาดยาปกติ

โดย kadocom on 28-9-60 11.01

ลอราทาดีน/เซททิริซีน (Loratadine/Cetirizine)1. ยานี้เป็นยาแก้แพ้ชนิดง่วงน้อย ใช้เฉพาะเมื่ออาการของโรคมีสาเหตุจากการแพ้ หรือโรคภูมิแพ้เท่านั้น เช่น ใช้ในกรณี น้ำมูกไหลเรื้อรังจากโรคภูมิแพ้ เป็นผื่นคันจากการแพ้หรือเป็นผื่นลมพิษ เป็นต้น2.ยานี้ไม่ช่วยลดน้ำมูกในผู้ที่มีน้ำมูกไหลจากโรคหวัด ไอ เจ็บคอ เนื่องจากโรคดังกล่าวเป็นโรคติดเชื้อ ไม่ได้มีสาเหตุจากการแพ้การใช้ยาแก้แพ้ชนิดง่วง เช่น คลอเฟนนิรามีน อาจบรรเทาอาการได้บ้างในผู้ป่วยบางราย3. ไม่ควรเรียกยานี้ว

โดย kadocom on 28-9-60 10.58

ไอบูโพรเฟนชนิดน้ำ (Ibuprofen Syr)1.ควรใช้พาราเซตามอลเป็นยาขนานแรกในการลดไข้ แก้ปวด2.ยานี้เป็นยาในกลุ่มเอ็นเสด ห้ามใช้ยานี้ ถ้าเคยแพ้เอ็นเสดชนิดอื่น3.ใช้ยาให้ถูกขนาดตามคำสั่งใช้ยาของแพทย์4.หลังใช้ยา 3 วัน ถ้ายังมีไข้หรือยังไม่หายปวด ให้ไปพบแพทย์5.กรณีสงสัยเป็นไข้เลือดออก ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เพราะอาจทำให้มีเลือดออกอย่างรุนแรงได้

444 items|« First « Prev 9 10 (11/45) 12 13 Next » Last »|
นายแพทย์ธวัช ลาพินี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล